เมนู

รสปฏิสังเวทีปัญหา ที่ 7


ราชา

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต
นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา อันว่าบุคคลสองจำพวก บุคคลผู้หนึ่งเป็นวีตราคะ บุคคล
ผู้หนึ่งเป็นอวีตราคะ คนสองจำพวกนี้มีเหตุต่าง ๆ กัน ไม่เหมือนกันหรือ พระผู้เป็นเจ้า พระผู้
เป็นเจ้าจงวิสัชนาไปก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐใน
สิริมโหศวรรย์ บุคคลที่เป็นอวีตราคะ มีราคะมิได้ปราศจากสันดานนั้นเป็นอัชโฌสิโต บุคคลที่
เป็นวีตราตะ มีราคะอันปราศจากสันดานนั้นเป็นอนัชโฌสิโต
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสถามว่า ที่เป็นอัชโฌสิโตอย่างไร ที่เป็นอนัชโฌสิโตอย่างไร
นิมนต์วิสัชนาไปก่อน
พระนาคเสนก็ถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชภารผู้ผ่านพิภพ
มไหศวรรย์ ที่เป็นอัชโฌสิโตนั้น อตฺถิโก ยังมีประโยชน์อยู่ ที่เป็นอนัชโฌสิโตนั้น มิได้มี
ประโยชน์ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โยมเข้า
ใจแล้วที่ท่านมีราคะขาดจากสันดานนั้นโสดาไม่มีประโยชน์ยินดี ที่ท่านยังมีราคะมิได้ขาดนั้น
โสดมีประโยชน์ยินดี ก็โยมเห็นว่าคนสองจำพวกนี้ บริโภคโภชนาหารขนมของกินอยู่เหมือนกัน
ที่ยินดีก็ฉันที่ไม่ยินดีก็ฉัน เหตุซิต่างกัน ไฉนจึงเป็นเช่นนี้ นิมนต์วิสัชนาให้ดีก่อน
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร คนสองจำพวก
บริโภคอาหารเหมือนกันแล แต่ทว่าอารมณ์ต่างกัน ที่เป็นอวีตราคะนั้น มีความกำหนัดยินดีใน
รสอันอร่อยอยากกันที่รสอันดี ที่ท่านไม่มีราคะนั้น มีอารมณ์มิได้ผูกพันในรสว่าดีและชั่ว ฉัน
พอประทับตัวที่จะได้รักษาพรหมจรรย์ ขอถวายพระพร
ครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากร ได้ทรงฟังก็โสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ พระผู้
เป็นเจ้าวิสัชนานี้สมควร
รสปฏิสังเวทีปัญหา คำรบ 7 จบเท่านี้

ปัญญายปติฏฐานปัญหา ที่ 8


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต
นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้มีปรีชา ปัญญานี้จะอยู่ที่ไหน นิมนต์วิสัชนาไปให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
ปัญญาจะได้เกิดปรากฏว่าอยู่ที่ใดหามิได้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากร มีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่
พระนาคเสน พระผู้เป็นเจ้าว่าปัญญามีมิได้ปรากฏว่าเกิดอยู่ที่ใด กระนั้นปัญญาไม่มีดอกกระมัง
หรืออย่างไร นิมนต์วิสัชนาให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
ลมนี้บังเกิดปรากฏอยู่ที่ใดเล่า พระราชสมภาร
พระเจ้ากรุงมิลินท์มีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อันว่าลมนี้เล่า
จะปรากฏอยู่ที่ใดหามิได้
พระนาคเสนจึงอุปไมยต่ออุปมาว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
ในอิสริยยศ ลมไม่ปรากฏที่อยู่ ฉันใด ปัญญานี้ก็ไม่ปรากฏว่าเกิดอยู่สถานที่ใด มีอุปไมยเหมือน
ลมนั้น ขอถวายพระพร
ฝ่ายสมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรทรงฟังก็โสมนัส มีพระราชโองการตรัสว่า กลฺโลสิ
พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนานี้สมควร
ปัญญายปติฏฐานปัญหา คำรบ 8 จบเท่านี้

สังสารปัญหา ที่ 9


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้มีปรีชาญาณ ที่ถ้อยคำว่าสงสารนี้อย่างไร โยมนี้ยังสงสัยอยู่ นิมนต์วิสัชนา
ให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร อันว่าสงสารนั้น